radiesse vs sculptra ต่างกันยังไง? และข้อเสียที่ควรรู้

นวัตกรรมแห่งการฟื้นบำรุงผิวให้ดูดีขึ้นเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง! radiesse vs sculptra ตัวไหนจะช่วยให้ผิวกลับมาสวยและทวงคืนความอ่อนเยาว์ได้เหมาะกับคุณ วันนี้ 44botox จะพาคุณมาดูว่า radiesse vs sculptra ต่างกันยังไง? หัตถการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกายให้ผลลัพธ์ดีกว่าการกินอาหารเสริมหรือใช้สกินแคร์อย่างเดียวจริงไหม? radiesse ข้อเสียมีไหม? sculptra ข้อเสียมีอะไรบ้าง? ผ่านมาตรฐานการรับรองรึเปล่า? ควรเลือก biostimulator ยี่ห้อไหนดี? ถึงจะลงตัวกับคุณที่สุด? ไปดูกัน

ทำความรู้จัก radiesse vs sculptra คืออะไร?

radiesse vs sculptra ทางเลือกที่ทำให้ทุกความสวยของคุณเป็นไปได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องอดทนรอคอยนานเป็นปีๆ หรือกินอาหารเสริมและใช้สกินแคร์ให้มากมาย แต่ก่อนจะไปดูข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ ให้คุณเริ่มต้นทำความรู้จักกับ biostimulator ทั้ง 2 แบรนด์นี้ก่อนว่าคืออะไร? ทำอะไรได้?

Radiesse คือ

Radiesse ราคา

radiesse vs sculptra มีความแตกต่างกัน สำหรับ Radiesse คือ นวัตกรรมการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนในรูปแบบ filler มีความแตกต่างในเรื่องการนำเอาสาร Calcium Hydroxylapatite microsphere หรือ CaHA มาเป็นส่วนประกอบหลักในตัวยา พร้อมอัดแน่นไปด้วยวิตามินต่างๆ มากมายที่เป็นอาหารผิวชั้นดี ประกอบไปด้วย Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan เพื่อปรับโครงสร้างผิวภายในด้วยการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ แม้ผิวขาดการบำรุงมาอย่างยาวนานก็สามารถฟื้นฟูผิวได้

ซึ่งเรามักพบเห็นกระทู้เกี่ยวกับการฉีด Radiesse รีวิว pantip ว่าชาวเน็ตต่างให้ความไว้วางใจและได้ผลลัพธ์จากการใช้ที่น่าพึงพอใจกันเป็นส่วนมาก ถ้าอยากมีผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ, แน่นกระชับ, อิ่มฟูและลดเลือนริ้วรอยได้จริง เลือกใช้ Radiesse ราคาที่เป็นมิตร ยืดอายุผิวและล็อกผิวเด็กกับแบรนด์นี้ได้เลย

Sculptra คือ

Sculptra ราคา

radiesse vs sculptra ไม่เหมือนกัน เพราะ Sculptra คือ นวัตกรรมการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1999 ที่วงการการแพทย์และวงการความงามต่างให้การยอมรับ โดยมีความโดดเด่นในเรื่อง The First & Original Collagen Biostimulator ซึ่งใช้อนุภาคของสาร Poly-L-Lactic acid หรือ PLLA ฉีดเข้าไปในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสกัดต่างๆ ได้ถึงผิวชั้นลึกโดยไม่เป็นอันตราย ถ้าอยากมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์, ฟื้นฟูโครงสร้างผิวตั้งแต่ภายในและเพิ่มเกราะปราการผิวทำให้ผิวมีความแข็งแรง, มอบความยืดหยุ่นให้กับผิว, ผิวดูกระชับและไม่ระคายเคืองง่าย แนะนำเลือกใช้ Sculptra ได้เลย

radiesse vs sculptra เป็นหัตถการ Biostimulator ที่ทำงานอย่างไรบ้าง?

หัตถการ radiesse vs sculptra ที่เป็นเคล็ดลับความงามของเหล่าเซเลบ, อินฟลูฯ ชื่อดังและดาราระดับชั้นนำมากมาย ต่างเลือกใช้ Biostimulator ดูแลผิว แล้ว Biostimulator ทำงานอย่างไร? ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ ดังนี้

Biostimulator คืออะไร? ช่วยเรื่องผิวสวยได้แค่ไหน?

Biostimulator คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน มีชื่อเต็มๆ คือ Collagen Biostimulator นวัตกรรมความอ่อนเยาว์ยุคใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อชดเชยคอลลาเจนในร่างกายที่ลดน้อยลงจากอายุที่มากขึ้น ทำให้หลังดูแลผิวด้วย Biostimulator ร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจะมีความยืดหยุ่นสูง, มีความอ่อนเยาว์, ผิวดูสดใสและใบหน้าดูสดชื่นน่ามอง เป็นรูปแบบการดูแลผิวให้สวยใสจากภายใน โดยเข้าไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผิวที่ดูโทรม, มีรอยดำรอยแดง, มีริ้วรอยเหี่ยวย่นรวมถึงรอยแผลเป็น ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป!

นอกจากนี้ Collagen Biostimulator ยังช่วยทำให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดี, ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและจบปัญหาเรื่องผิวแห้งกร้านอย่างเด็ดขาด! มอบผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวที่สัมผัสได้ว่า ดูเรียบเนียนและน่าสัมผัสอย่างชัดเจน นอกจากเรื่องผิวพรรณแล้ว ยังมีประโยชน์กับร่างกายในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงข้อต่อ, บำรุงเส้นผม, บำรุงเล็บ, บำรุงกระดูกและฟันรวมถึงระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย

ที่สำคัญการดูแลผิวด้วย Biostimulator ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพราะระบบภายในร่างกายส่วนต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้นด้วย จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนรักผิวที่ต้องการดูแลตัวเองอย่างเร่งด่วน! และถูกเลือกใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ที่สำคัญอุ่นใจได้ทุกการฉีด เพราะไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายและให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย 100%  

การฟื้นฟูผิวของ Radiesse ทำงานอย่างไร?

radiesse vs sculptra มีกระบวนการทำงานแตกต่างกัน อย่าง Radiesse มีกระบวนการฟื้นฟูผิว มุ่งเน้นไปที่แก้ไขปัญหาผิวจากต้นตอ เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นระนาบใต้ผิวหนัง ส่วนผสมหลักอย่าง CaHA จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับ Fibroblasts โดยตรง ซึ่งเป็นเซลล์เริ่มต้นของการเสริมสร้างคอลลาเจน จากนั้นอนุภาคจะเกาะตัวกันเป็นโครงสร้างใต้ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน บริเวณรอบๆ เซลล์ผิวมากถึง 250% จากผิวที่เคยเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยริ้วรอยและดูหมองคล้ำ ก็จะกลับมาตึงกระชับ, มีวอลลุ่ม, อ่อนเยาว์, ชุ่มชื้นและผิวแข็งแรงได้มากกว่าเดิม      

การฟื้นฟูผิวของ Sculptra ทำงานอย่างไร?

สำหรับกระบวนการฟื้นฟูผิวของ radiesse vs sculptra ถ้าพูดถึงตัว Sculptra จะมีกระบวนการทำงานดูแลผิวลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง โดยแพทย์จะนำผงสครับต้าไปผสมกับ Sterile water ก่อน ในปริมาณที่เหมาะสมแล้วฉีดเข้าชั้นใต้ผิว โดยกรด PLLA ที่เป็นส่วนผสมหลักของ Sculptra จะไปออกฤทธิ์ทำปฏิกิริยากับเซลล์ Subclinical inflammation ในร่างกายส่งต่อไปยังเซลล์เม็ดเลือดขาว ตามด้วยเซลล์ Fibroblasts จุดต้นกำเนิดของการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย จึงทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมา หลังฉีดจึงค่อยๆ สัมผัสได้ถึงความอิ่มฟูของผิวและผิวก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ

ตอบชัด! radiesse vs sculptra ต่างกันยังไง?

radiesse vs sculptra

radiesse vs sculptra ทั้ง 2 แบรนด์แม้จะมีข้อแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน แต่สิ่งที่คุณจะได้หลังฉีด คือ ผลลัพธ์เรื่องงานผิวอ่อนเยาว์และผิวดูสุขภาพดีเหมือนสั่งได้! ทั้ง Radiesse และ Sculptra จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่พึงพอใจเรื่องการฮีลผิวตัวเองอย่างแท้จริง! ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ และ Boots ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการบำรุงที่ล้ำลึกและตรงจุด โดยให้ผลลัพธ์ความสวยอยู่ได้นาน 2 ปี เหมือนกัน แล้ว radiesse vs sculptra ต่างกันยังไง? มาดูกัน

  • สารสกัดหลัก radiesse vs sculptra แตกต่างกัน สำหรับตัว Radiesse ใช้  Calcium Hydroxylapatite microsphere ส่วน Sculptra ใช้  Poly-L-Lactic acid ซึ่งให้ผลลัพธ์ในการเพิ่มความสวยและกลไกในการทำงานดูแลผิวที่แตกต่างกัน!
  • ขั้นตอนการฉีด radiesse vs sculptra แตกต่างกัน โดยตัว sculptra จะต้องนำผงไปผสมกับ Sterile water ส่วน Radiesse สามารถฉีดได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำกลั่น แต่ถ้าหากอยากฉีดให้เห็นผลในวงกว้าง ก็สามารถนำตัวยาไปผสมกับ Sterile water ได้เหมือนกัน
  • ปริมาณในการฉีดของ radiesse vs sculptra ก็ต่างกัน ตัว Radiesse ใช้ปริมาณ 1-3 หลอด ต่อการฉีด 1 ครั้ง ส่วน Sculptra ใช้ปริมาณ 1-2 ขวด ต่อการฉีด 1 ครั้ง เพิ่มเติมปริมาณในการฉีดนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และปัญหาผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงอายุแต่ละเคสอาจใช้ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมมากที่สุด

radiesse vs sculptra คุณเหมาะกับยี่ห้อไหน?

เลือก Biostimulator ยี่ห้อไหนดี? ถ้าคุณได้ลองไปส่องกระทู้ ฉีด Radiesse รีวิว pantip ว่าชาวเน็ตแนะนำฉีดยี่ห้อไหนดี? คุณอาจได้คำตอบที่ไม่ตรงกับความต้องการ แนะนำให้มาดูข้อมูลตรงนี้เพิ่มเติม ว่าคุณเหมาะกับยี่ห้อไหน? ที่สุด คุณจะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฉีดกระตุ้นคอลลาเจนสำหรับแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและได้ผลลัพธ์คุ้มค่าทุกเข็มที่ฉีด เช็กเลย!

radiesse เหมาะกับใคร?

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยหรือมีร่องลึกที่สะสมมายาวนาน มองเห็นได้ชัดแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
  • เหมาะกับคนที่ผิวขาดวอลลุ่ม, ไม่มีความยืดหยุ่นและดูหย่อนคล้อยไม่ตึงกระชับ
  • เหมาะกับคนที่ผิวหมองคล้ำ, หน้าโทรมและผิวดูไม่สดใส
  • เหมาะกับคนที่รูขุมขนกว้างและมีปัญหาหลุมสิว
  • เหมาะกับคนที่หลังมือและลำคอเหี่ยวย่น
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห่งวัย

sculptra เหมาะกับใคร?

Sculptra เหมาะกับใคร
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยสะสมที่เห็นได้ชัด รวมถึงริ้วรอยแห่งวัยจากอายุ
  • เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อย, ไม่ตึงกระชับและขาดความยืดหยุ่นไม่อิ่มฟู
  • เหมาะกับคนที่ผิวเสียสะสม ขาดการดูแลเอาใจใส่มาอย่างยาวนาน
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน อยากให้ผิวฉ่ำ ไม่ลอกเป็นขุยๆ
  • เหมาะกับคนที่ผิวกักเก็บน้ำได้ไม่ดีและผิวขาดความชุ่มชื้น
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากมีผิวเนียนใสทั่วใบหน้าและอยากเติมคอลลาเจนให้กับผิว

เลือกไม่ถูกระหว่าง radiesse vs sculptra ฉีดพร้อมกันเลยได้ไหม?

radiesse vs sculptra ทั้ง 2 ตัวนี้ ไม่แนะนำให้ฉีดพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะอาจทำให้ปริมาณที่ใช้เยอะเกินไปและไม่เหมาะสมกับร่างกาย ถึงจะเป็น Biostimulator เหมือนกัน แต่กลไกการทำงานแตกต่างกัน ดังนั้นหลังฉีดตัวใดตัวหนึ่งไปแล้ว แนะนำให้เว้นระยะห่างประมาณ 1-3 เดือน แล้วค่อยฉีดตัวถัดไปและสำหรับการฉีดนั้น ควรเลือกฉีดและรับคำประเมินจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง!

radiesse vs sculptra ฉีดกับร่วมกับงานผิวตัวอื่นๆ ได้ไหม?

สารกระตุ้นคอลลาเจน radiesse vs sculptra สามารถฉีดร่วมกับงานผิวตัวอื่นๆ ได้ แต่แนะนำให้แพทย์ประเมินว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์งานผิวหรือ Biostimulator ยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ส่งผลกระทบกัน เพราะหากเลือกใช้ผิด อาจไปกดการทำงานของสารบางชนิด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาเกี่ยวกับผลข้างเคียงของตัวยา ลามไปถึงการออกฤทธิ์ ดังนั้นก่อนฉีดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ให้เป็นผู้ประเมินให้เท่านั้น!

radiesse vs sculptra ฉีดเสริมความสวยความงามตำแหน่งใดได้บ้าง?

ตำแหน่งในการฉีด radiesse vs sculptra เหมาะกับนำไปฉีดบริเวณตำแหน่งไหน?

  • ตัว Radiesse นิยมฉีดบริเวณใบหน้า, หน้าแก้ม, ร่องแก้มและร่องลึกต่างๆ รวมถึงบริเวณลำคอและหลังมือ
  • ตัว Sculptra จะนิยมฉีดบริเวณด้านข้างของใบหน้าขมับ, หน้าแก้มและกรอบหน้ามากกว่า

ส่องข้อเสีย radiesse vs sculptra ที่ควรรู้

radiesse vs sculptra มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ส่วนข้อเสียจะมีอะไรบ้างนั้น ดูได้ที่นี่

radiesse ข้อเสีย

  • มาดูว่า radiesse vs sculptra มีข้อเสียอะไรบ้าง? โดยเริ่มจากข้อเสียของตัว Radiesse ดังนี้
  • ผลลัพธ์หลังการฉีดอาจจะต้องใช้เวลาในการรอคอยสักเล็กน้อย โดยหลังฉีดจะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลังฉีดได้ 1 เดือนและจะเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดมากขึ้นภายใน 3-6 เดือน
  • หากไม่ฉีดซ้ำต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง อาจไม่เห็นผลที่คาดหวังและจะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานเพียง 2-4 เดือน

sculptra ข้อเสีย

  • radiesse vs sculptra ต่างก็มีข้อเสียเล็กน้อย โดยตัว Sculptra มีข้อเสียที่ควรรู้ ดังนี้
  • มีระยะเวลารอคอยผลลัพธ์เล็กน้อย โดยจะเห็นผลภายใน 1 เดือนหลังฉีด เห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน
  • ต้องฉีดปรับสภาพผิวต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง จึงจะเห็นผลมากขึ้น
  • หากผสมผงกับ Sterile water เกินปริมาตร 10 cc อาจไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อยมาก เนื่องจากความเข้มข้นของตัวยาลดลง

radiesse vs sculptra ราคาเบาๆ เลือกซื้อที่ไหนดี?

อยากซื้อ radiesse vs sculptra ราคาถูกเกินคาดที่มาพร้อมคุณภาพเกินคุ้ม สั่งซื้อได้ที่ไหน? แนะนำสั่งซื้อกับ 44botox ผู้จำหน่ายเวชภัณฑ์ความงามของแท้ 100% เพื่อให้คุณฉีดผิวสวยได้อย่างมั่นใจ! ลดอายุผิวแบบคลายความกังวลเรื่องผลข้างเคียงและอันตรายจากการใช้ของปลอม เพราะ 44botox เป็นแหล่งรวม biostimulator ยี่ห้อชื่อดังได้มาตรฐาน, ผ่านการรับรองความปลอดภัยและจัดจำหน่ายโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ใส่ใจเรื่องการจัดเก็บอย่างดีเพื่อคงคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมจัดส่งอย่างถูกต้องด้วยการควบคุมอุณหภูมิ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ที่สั่งซื้อกับที่นี่คุณภาพดี เต็มประสิทธิภาพของตัวยา ฉีดแล้วเห็นผลจริง!

radiesse vs sculptra

สรุป

radiesse vs sculptra ทั้ง 2 ตัวนี้ ถือว่าเป็นตัวช่วยเรื่องผิวสวยที่ยั่งยืน ที่ปรับโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก ส่งผลดีต่อผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยืดอายุผิวให้แข็งแรง, มอบความตึงกระชับให้ผิวและทำให้ผิวลดความหย่อนคล้อยลง ถ้าคุณมีปัญหาริ้วรอยที่ทำให้คุณไม่มั่นใจในตัวเอง ผิวคล้ำเสียมากอยากหาวิธีแก้ไข แนะนำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ radiesse vs sculptra ราคาปลีก/ส่ง ได้ที่ 44botox ศูนย์รวมเวชภัณฑ์ชั้นนำที่พร้อมจัดส่งทั่วประเทศไทย คุณจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์มาตรฐานสูงในราคาส่งคลินิก ให้คุณรู้สึกคุ้มค่าทุกครั้งที่ลงทุนให้กับความสวย หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ biostimulator ยี่ห้อไหนดี? แนะนำทักแชตมาปรึกษา 44botox ได้เลย ที่นี่มีบริการประเมินผิวหน้าแบบตัวต่อตัว เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสภาพผิวคุณมากที่สุด! พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรีเรื่องความสวยความงาม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย!

เพิ่มเพื่อน

Scroll to Top