ปัญหาผิวแบบนี้ ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ความลับผิวกระจก 2024

สารบัญเนื้อหา 44Botox

ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? Skin booster เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเรื่องความสวยความงามที่น่าจับตามอง ซึ่งในวงการฉีดผิวหน้าใสในช่วงนี้คงไม่มีตัวไหนมาแรงเกินกว่าสกินบูสเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มในเรื่องความดูดีของผิวให้โดดเด่น ฟื้นฟูผิวที่แห้งขาดน้ำให้อิ่มฟูดูสดใสมีออร่า ฟิลเลอร์งานผิวตัวนี้จะมาช่วยทวงคืนความสดใสของผิวคุณ สร้างผิวแบบ Glass Skin ฉ่ำวาวราวกระจก แบบที่ใครๆ ทุกคนก็ใฝ่ฝันหา ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและตรงใจ จบทุกความต้องการในเรื่องผิว สำหรับใครที่กำลังอยากเลือกใช้หัตถการงานผิวแบบนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกฉีด Skin Booster ยี่ห้อไหนดี? ถึงจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดีต่อผิวตัวเองมากที่สุด 44botox จะพาไปรู้จัก skin booster ราคาเข้าถึงง่าย ที่จะเข้ามาเติมเต็มความใสให้กับผิวแบบไม่เหมือนใครให้กับคุณ ว่าควรเลือกยี่ห้อไหนดี? ฉีดหน้าใส ราคาเท่าไหร่? ไปดูกัน

ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี

ส่องทางเลือกฉีดหน้าใส ตัวไหนดี มีอะไรบ้าง? Skin booster คืออะไร ทำงานอย่างไร?

ก่อนที่จะไปรู้จักว่าฉีดหน้าใส ตัวไหนดี มีอะไรบ้าง? มาทำความรู้จักกันก่อนว่า Skin booster คืออะไร? ช่วยดูแลผิวได้อย่างไร? skin booster คือ สารเติมเต็มผิวที่ช่วยบำรุงและกระตุ้นและฟื้นฟูผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ ตัวยาในสกินบูสเตอร์จะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสร้างสาร Hyaluronic acid (HA) รวมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ถือเป็นสารสำคัญมากสำหรับผิว

HA และ collagen จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น, สร้างน้ำใต้ผิว, ทำให้ใบหน้าเปล่งปลั่ง, ผิวดูละเอียดมากขึ้น, รูขุมขนกระชับและชุ่มชื้นดูมีน้ำมีนวลจากภายในแบบธรรมชาติไม่หลอกตา อีกทั้ง การฉีดหน้าใส ด้วย skin booster คือผู้ช่วยคืนผิวหน้าใสกระจกให้คุณได้อย่างรวดเร็ว ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ทันใจมากกว่าการทาครีมหรือปรนนิบัติผิวด้วยวิธีอื่นๆ แน่นอน

เหตุผลที่การฉีดหน้าใส ได้รับความนิยมและคุณสมบัติที่มองข้ามไม่ได้

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมการฉีดหน้าใสจึงเป็นหัตถการงานผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ skin booster ช่วยอะไรและดูแลผิวเรื่องอะไรได้บ้าง? ไปดูคุณสมบัติที่พลาดไม่ได้กันว่ามีอะไรบ้าง?

  • ฉีดหน้าขาวใส ปรับผิวให้มีความขาวกระจ่าง
  • Skin booster แก้ปัญหาริ้วรอย, ร่องลึกจากวัยและยังป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ฉีดหน้าใสแก้ปัญหารอยแผลเป็น, รูขุมขนและหลุมสิว
  • บูสเตอร์ผิวให้ดูกระชับเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน, ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีแบบเป็นธรรมชาติ

หัตถการฉีดหน้าใส เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวอย่างไรบ้าง ควรเลือกใช้ตัวไหนดี

ฉีดหน้าใส ด้วย Skin booster เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ, ดูแห้งกร้าน, หมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอหรือมีจุดด่างดำ ใครที่ต้องการปรับผิวให้ดูเปล่งปลั่ง เพิ่มความสดใสให้ผิวดูดีแบบเป็นธรรมชาติ แนะนำเลือกฉีดสกินบูสเตอร์ ช่วยตอบโจทย์ผิวชุ่มชื้นดูฉ่ำวาวให้คุณได้แน่นอน

รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกตามวัย หลุมสิวหรือรูขุมขนกว้าง หากต้องการฉีดผิวหน้าใสแบบเห็นผลไว ก็แนะนำเลือกใช้ Skin booster เช่นกัน เป็นการแก้ปัญหาผิวที่รวดเร็วตรงจุด เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกคนที่อยากผิวดูดีแบบปลอดภัย ไม่เจ็บมากและทำให้ปัญหาผิวกลายเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ง่ายขึ้น

ผิวแบบนี้ เลือกฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? มีอะไรบ้าง ให้ผลลัพธ์นานแค่ไหน?

เมื่อทราบไปแล้วว่าสกินบูสเตอร์ ดีไหม? ช่วยผิวได้อย่างไร? ก็ถึงเวลาที่จำเป็นต้องรู้ ว่าฉีดหน้าใส มีอะไรบ้าง? ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ถึงจะเหมาะกับผิวของคุณมากที่สุด 44botox จะพามาแนะนำ skin booster ตัวไหนดีที่ติดท็อปยอดนิยมและน่าใช้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่า ได้คัดตัวที่มีรีวิวดี รีวิวแน่น มีการันตีจากผู้ใช้มากมายว่ามีความปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมาให้คุณได้รู้จัก

ฉีดหน้าใสตัวไหนดี แนะนำ Rejuran กับ Meso Chanel L’ebss

ฉีดหน้าใส

Rejuran Healer เป็นเมโสฉีดหน้าใสที่ใครๆ ก็เลือกใช้ โดยทั้งสองตัวนี้ Rejuran + Chanel ผสานคุณสมบัติเพื่อให้ผิวฉ่ำดูดีจากภายใน แนะนำฉีดคู่กันตามแพทย์แนะนำ ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน

  • รีจูรัน : ประกอบไปด้วยสารสกัด Polyneucleotide จาก DNA Salmon ช่วยฟื้นฟูผิวอ่อนเยาว์, ปรับสภาพผิวให้ขาวใส, ผิวฉ่ำเด้งโกลว์ได้อย่างทันใจและช่วยบอกลาริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี
  • Meso Chanel L’ebss : คือสกินบูสเตอร์เกรดพรีเมี่ยมจากเกาหลี ที่ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงริ้วรอยลดเลือนและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้อย่างดีเยี่ยม

ฉีดหน้าใส FILORGA NCTF 135 HA

ฉีดหน้าใส

Filorga nctf 135 ha Skin booster กล่องแดงจากฝรั่งเศส เป็นตัวฉีดหน้าใสที่กำลังมาแรงมีแต่คนไว้วางใจเลือกใช้ ด้วยส่วนผสมจากตัวยาที่จำเป็นต่อผิวมากถึง 59 ชนิด ที่จะเข้ามาเปลี่ยนชั้นผิวให้แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม อย่าง Fillmed nctf 135 ha เสริมสร้าง Fibroblasts (ไฟโบบลาส) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความสำคัญต่อชั้นผิวหนังแท้และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, อิลาสติน, ลดเม็ดสีรวมถึงรอยคล้ำรอบดวงตา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวนี้ฉีดแล้วคงผลลัพธ์ 2-3 เดือน

ฉีดหน้าใส ASCE plus

ฉีดหน้าใส

asce-plus บูสเตอร์ฉีดหน้าใสจากเกาหลี มีอนุภาคระดับนาโน เข้าไปบำรุงผิวให้ดูดีจากภายในล้ำลึกถึงระดับเซลล์ ด้วย Exosome ขนาดเล็กจิ๋วบวกกับโมเลกุลที่บรรจุโปรตีน, กรดอะมิโนและสารต่างๆ อีกกว่า 1,000 ชนิด ทำหน้าที่คืนความอ่อนวัยให้กับผิว อีกทั้งยังแก้ปัญหาหลุมสิวที่แก้ยาก, ริ้วรอยและรูขุมขนก็จัดการได้แบบไร้กังวล Asce Plus ตัวนี้คงผลลัพธ์ได้ประมาณ 2-3 เดือน

ฉีดหน้าใส JUVELOOK Collagen Biostimulator

ฉีดหน้าใส

juvelook บอกลาหลุมสิวและผิวขรุขระด้วย Juvelook ไหมน้ำ ตัวดังจากเกาหลี ที่จะมาเติมเต็มคอลลาเจน Biostimulator เป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนแบบธรรมชาติ จบปัญหารูขุมขนกว้าง เพิ่มผิวแน่นกระชับและปรับความสว่างให้กับผิว ฉีดหน้าใสคงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite Skin booster

ฉีดหน้าใส

Juvederm-volite ฟิลเลอร์งานผิวสัญชาติอเมริกาสำหรับ ฉีดหน้าใสโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ที่ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นฉ่ำน้ำให้ผิวดูดีจากภายในได้อีกด้วย juvederm volite ตัวนี้โดดเด่นเรื่อง HA ที่มีลักษณะเป็นเจลอ่อน ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ไม่เป็นคลื่น ดูกลมกลืนกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถฉีดได้ทุกบริเวณที่ต้องการ คงผลลัพธ์ประมาณ 9 เดือน

ขั้นตอนและการเตรียมผิวก่อนฉีดหน้าใส มีอะไรบ้าง?

สำหรับขั้นตอนและการเตรียมผิวก่อนฉีดหน้าใส มีอะไรบ้าง? จะมีการทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากเป็นไปได้ควรงดการแต่งหน้าก่อนไปฉีด จากนั้นอาจจะมีการใช้ยาชาเฉพาะจุดเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ แล้วแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีด Skin booster ลงไปในชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งระดับความลึกในการฉีดและเทคนิคการฉีดต่างๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของบูสเตอร์ที่ใช้และบริเวณที่ฉีด ซึ่งในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปตามที่แพทย์เห็นสมควร ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

ดูแลตัวเองหลังฉีดหน้าใส เพื่อลดผลข้างเคียง

  • หลังจากที่ฉีดหน้าใสแล้ว แพทย์อาจมีการแนะนำให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและควรดูแลตัวเองเพิ่มเติมหลังจากฉีดไปแล้ว ดังนี้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์งานผิวควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง 50+ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด
  • หลีกเลี่ยงการแกะ, เกา, แคะผิวบริเวณที่ทำการฉีดหน้าใส ไป 1-2 วันเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนมาก ภายใน 24-48 ชม. เช่น การอาบน้ำร้อน, ซาวน่า, ออนเซ็นหรือออกกำลังกายหนักๆ จนเกิดความร้อนในร่างกาย เป็นต้น
  • งดใช้ครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางบริเวณที่ฉีดหน้าใสในคืนแรก เพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดการติดเชื้อ
  • การดื่มน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและมีการฟื้นฟูเร็วขึ้น

ควรเลือกฉีดหน้าใส ตัวไหนดี แล้วเจ็บรึเปล่า?

การฉีดหน้าใส เป็นการฉีดบำรุงผิวที่จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิวหลังทำตั้งแต่ครั้งแรก แล้วจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เพราะผิวได้มีเวลาฟื้นฟูและได้มีการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเต็มที่ ส่วนจะต้องฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามปัญหาผิวของแต่ละคนซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละเคส หากใครมีปัญหาผิวมากอาจจะต้องฉีดซ้ำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ในทุกๆ 2-4 สัปดาห์ เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ของ Skin Booster อยู่ได้นานแค่ไหน? ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย

สรุป

หลังจากได้รู้จักการฉีดหน้าใสด้วย Skin booster ความลับของการมีผิวกระจกฉ่ำวาวกันไปแล้ว จะเห็นว่าใครๆ ก็สามารถมีผิวดูดีได้ เลือกเติมออร่าให้กับผิวด้วยคุณสมบัติของสกินบูสเตอร์กันได้ทุกคน หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยดีๆ ในการดูแลผิว แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ไม่ว่าจะเป็น fillmed nctf 135 ha, Asce Plus, Rejuran Chanel, Juvelook หรือ juvederm volite สามารถทักเข้ามาปรึกษาขอคำแนะนำและสั่งซื้อผ่านไลน์แอด 44botox กันก่อน ที่นี่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฉีดหน้าใส ราคาโปรโมชัน การันตีได้รับของแท้เต็มประสิทธิภาพทุกชิ้น อีกทั้งยินดีให้คำปรึกษาฟรีว่าควรใช้ skin booster ตัวไหนดี? ราคาเท่าไหร่? ทักมาขอโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์และจองคิวรับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกในเครือ 44botox ได้เลย ผลลัพธ์ความสวยที่ทันใจและปลอดภัยรอคุณอยู่ที่นี่!

เพิ่มเพื่อน
Scroll to Top