ถ้าคุณไม่เคยฉีดหน้าใสมาก่อนอาจมีความสงสัยมากมาย เช่น ฉีดเมโสหน้าใสคืออะไร? ฉีดหน้าใสเจ็บไหม? ฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน? มีหลักการทำงานอย่างไร? ปัจจุบันการทำเมโสหน้าใส เป็นหัตถการอันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เมื่อต้องการทางลัดในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกจากภายใน ตัวช่วยปรับสมดุลผิวให้กลับมาแข็งแรง แก้ไขปัญหาผิวได้ลึกถึงต้นตอ 44botox จะมาช่วยไขข้อข้องใจให้ครบทุกประเด็น เพื่อให้สามารถเตรียมตัวก่อนฉีดได้อย่างเหมาะสมและแก้ไขปัญหาผิวที่กำลังเผชิญอยู่ได้อย่างตรงจุด
หัตถการงานผิวยอดนิยมอย่างการทำเมโสหน้าใสคืออะไร?
เมโสหน้าใสหรือการฉีดหน้าใสคือ การทำ Treatment (Mesotheory) ด้วยการฉีดสารอาหาร วิตามินหรือสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรงบริเวณชั้นเมโสหรือผิวชั้นกลาง เพื่อฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ไขปัญหาผิวต่างๆ ได้อย่างตรงจุด ทำให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส ปัญหาสิว ฝ้า กระแลดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวแลดูสม่ำเสมอรวมถึงช่วยลดการอักเสบของเซลล์ผิว ขับสารพิษสะสมและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าการทาครีมบำรุงที่ดูดซึมได้เพียงผิวชั้นนอกมากถึง 3-5 เท่า
ก่อนฉีดหน้าใส ต้องเตรียมตัวอย่างไร? ฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล
การฉีดเมโสหน้าใสไม่มีข้อควรระวังหรือการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ เหมือนกับการทำหัตถการรูปแบบอื่นๆ เพียงแค่จำเป็นต้องรู้ว่าฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล เพื่อกำหนดงบประมาณ, เลือกยี่ห้อเมโสฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? และจำเป็นต้องแจ้งประวัติการแพ้ยา, สารบำรุง, สารเคมีหรือสารวิตามินต่างๆ ประวัติด้านสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดรวมถึงปัญหาผิวที่ต้องการการแก้ไขหรือมีจุดประสงค์ในการทำเมโสเพื่อหวังผลลัพธ์ด้านใด
หัตถการเมโสหน้าใสทำงานอย่างไร ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? แบ่งตามปัญหาผิว
สำหรับหลักการทำงานของเมโส คือ การฉีดสารสำคัญลงไปยังชั้นผิวเพื่อฟื้นฟู บำรุงและซ่อมแซมความเสียหายของผิวที่มีผลมาจากหลายปัจจัย เช่น มลภาวะ, สิ่งสกปรก, สารระคายเคืองและความเสื่อมสภาพของเซลล์ โดยจะใช้สารสำคัญแตกต่างกันไปตามปัญหาของผิว โดยการเลือกฉีดหน้าใส ตัวไหนดีนั้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. เมโสผิวขาว
เมโสผิวขาว | รายละเอียด |
เมโสผิวขาวช่วยอะไรบ้าง? | ปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้น |
เหมาะกับใคร? | คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ อันมีสาเหตุมาจากการนอนดึก ดื่มน้ำน้อย, ความเครียด, พฤติกรรมการใช้ชีวิต, สภาพแวดล้อม, สภาพอากาศ, อายุหรือช่วงวัยที่เพิ่มมากขึ้นคนที่ต้องการต้องการปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสได้ในเวลาอันรวดเร็วโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ |
ประเภทของวิตามินที่ใช้ | วิตามินเอ, วิตามินบี, วิตามินซี, วิตามินอีและกลูต้าไธโอน |
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | AXO BRIGHTENING SKIN BOOSTER, Filorga, Neo Glutanex Glow, Revs และ Depigment |
2. เมโสหน้าใส
เมโสหน้าใส | รายละเอียด |
เมโสหน้าใสช่วยอะไรบ้าง? | เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวช่วยให้ผิวแลดูอิ่มฟูและดูสุขภาพดีกระชับรูขุมขนกระตุ้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น |
เหมาะกับใคร? | คนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง, ทำงานหนักและนอนดึกบ่อยคนที่มีปัญหาสุขภาพผิวคนที่ต้องการกู้ปัญหาผิวโทรมให้กลับมาสดใสได้เร็วกว่าการทาครีมบำรุงคนที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีริ้วรอยและจุดด่างดำ |
ประเภทของวิตามินที่ใช้ | คอลลาเจนและโคเอนไซม์ต่างๆ |
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | AXO GLASS SKIN BOOSTER, NCTF 135 HA, Rejuran และ Meso Chanel |
3. เมโสลดสิว-ผดผื่น
เมโสลดสิว-ผดผื่น | รายละเอียด |
เมโสลดสิว-ผดผื่นช่วยอะไรบ้าง? | ช่วยในเรื่องขับสารพิษออกจากผิว ลดการอักเสบและช่วยในเรื่องการลดสิว |
เหมาะกับใคร? | คนที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง, ผิวแพ้ง่ายและเป็นผดผื่นง่ายคนที่มีผิวโทรมหรือผิวดูไม่สดใส |
ประเภทของวิตามินที่ใช้ | มัลติวิตามินและคอลลาเจน |
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | Made Collagen, Derma Glow, Mezo Celeb |
หัตถการเมโสหน้าใส มีวิธีการฉีดแบบไหนบ้าง?
การใช้เมโสหน้าใสจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ แบบทาและแบบฉีด โดยแบบฉีดจะได้รับความนิยมสูงกว่า เนื่องจากสามารถดูดซึมวิตามินได้ดี ออกฤทธิ์ไวและเห็นผลได้ชัดเจนกว่าแบบทา
1. แบบทา
เป็นการทาสารสกัดหรือวิตามินต่างๆ เหมือนครีมบำรุงทั่วไป เมื่อร่างกายดูดซึมตัวยาลงสู่ผิวชั้นนอกจะให้ผลลัพธ์ตามต้องการได้ เช่น ปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสหรือลดผดผื่น แต่ประสิทธิภาพด้อยกว่าเมโสแบบฉีดมาก เพราะดูดซึมค่อนข้างช้าและใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
2. แบบฉีด
เป็นการฉีดสารบำรุงหรือวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวโดยตรง ส่งผลให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลแบบเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเมโสแบบทา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการทำด้วยว่าจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง? รวดเร็วแค่ไหน? มีผลข้างเคียงหรือไม่? ซึ่งเทคนิคการฉีดมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ
2.1. การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด
เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มในการฉีดตัวยาให้กระจายเป็นจุดเล็กๆ ทั่วใบหน้าในระดับผิวหนังชั้นตื้น เพื่อหวังผลในการกระตุ้นคอลลาเจน แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ เพราะหากระหว่างการฉีดไม่มีการรักษาความสะอาดเพียงพอ อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อหรือมีผลข้างเคียงอย่างการเกิดผื่นแดงจากรอยเข็มหรือมีรอยช้ำได้
2.2. การฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด
เป็นเทคนิคการฉีดโดยใช้เข็มฉีดตัวยาให้กระจายเป็นจุดเล็กๆ ทั่วใบหน้าเช่นเดียวกัน แต่เป็นการฉีดลงบริเวณผิวชั้นกลางตามทิศทางการไหลของต่อมน้ำเหลือง 16 จุด ส่งผลให้ตัวยาสามารถกระจายสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างเต็มที่ ออกฤทธิ์ได้ยาวนานขึ้นและมีผลข้างเคียงหรือเกิดรอยช้ำน้อยกว่าการฉีดเมโสแบบสะกิด
4 อันดับเมโสหน้าใสยอดนิยม ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ถึงตรงความต้องการ!
ตามหลักแล้วการเลือก ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ควรรู้ก่อนว่าเมโสหน้าใส ราคาเท่าไหร่บ้าง? โดยก่อนฉีด Meso หน้าใสนั้น ยังไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน 100% เพราะจำเป็นต้องผ่านการลงความเห็นจากแพทย์เสียก่อนว่า ผิวหน้าของคุณเหมาะกับเมโสชนิดไหน? โดยแพทย์จะประเมินตามปัญหาผิว โรคประจำตัวหรือยาที่กินอยู่เป็นประจำของแต่ละบุคคลด้วย
แต่ทั้งนี้ก็สามารถนำ 4 อันดับเมโสยอดนิยมเหล่านี้ไปใช้ในการขอคำปรึกษาจากแพทย์เพิ่มเติมได้ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเลือกฉีดสารที่ตรงกับปัญหาของตนเองและมีความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อทราบว่าควรฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ไปดูข้อมูลของเมโสหน้าใสแต่ละตัวกันได้เลย
1. เมโสหน้าใส REJURAN Healer
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | รายละเอียด |
REJURAN HEALER เหมาะกับใคร? | คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าคนที่ต้องการปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสและฉ่ำวาวคนที่ต้องการผิวเรียบเนียนและต้องการให้รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้นคนที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นคนที่มีผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น |
ส่วนผสมหลัก | สารโพลีนิวคลีโอไทด์ที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอน |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใส กระชับ เรียบเนียนสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ช่วยทำให้ผิวอิ่มน้ำ แลดูอ่อนกว่าวัยช่วยลดการเกิดสิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นได้ช่วยลดหลุมสิว |
2. เมโสหน้าใสชาแนล L’ebss
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | รายละเอียด |
Meso Chanel L’ebss เหมาะกับใคร? | คนที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้นคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ, จุดดำหรือจุดแดงรวมถึงฝ้า กระกวนใจคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วนคนที่มีปัญหาร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้า |
ส่วนผสมหลัก | กรด Hyaluronic, Pink ยีสต์หรือสารสกัดยีสต์จากดอกซากุระ, เปปไทด์ 14 ชนิด, กรดอะมิโนและกลูต้าไธโอน |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้นช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวช่วยให้ผิวมีความเต่งตึง ยืดหยุ่นและริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้นได้ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสฉ่ำวาวช่วยให้รูขุมขนเล็กลงช่วยบำรุงใต้ตาคล้ำให้กลับมาสดใส |
3. เมโสหน้าใส FILLMED NCTF 135 HA
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | รายละเอียด |
FILLMED NCTF 135 HA เหมาะกับใคร? | คนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น คนที่มีปัญหาใบหน้าเหี่ยวโทรม ผิวขาดความตึงกระชับ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องตื้น ผู้ที่ต้องการซ่อมแซม ฟื้นฟูผิวเสียสะสม ใบหน้าหน้าหมองคล้ำ รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ |
ส่วนผสมหลัก | กรด Hyaluronic (HA) เข้มข้นแท้ 100%, สารแอนติออกซิแดนท์ 2 ชนิด, กรดอะมิโน 24 ชนิด, วิตามินรวม 14 ชนิด เช่น วิตามินเอ บี ซี และ อี |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยคุณสมบัติเด่นของ HA ช่วยให้ผิวหน้าสดใส ฉ่ำวาวช่วยลดริ้วรอย ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้ดูกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ เสริมสร้างคอลลาเจน ยับยั้งสาเหตุการก่อตัวของรอยด่างดำ ช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำจากเม็ดสีความลึกใต้ตา |
4. เมโสหน้าใส AXO GLASS SKIN BOOSTER
ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? | รายละเอียด |
AXO GLASS SKIN BOOSTER เหมาะกับใคร? | คนที่มีปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้าคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดความตึงกระชับและมีความหย่อนคล้อยคนที่มีปัญหาริ้วรอย แผลเป็นและหลุมสิว |
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากยีสไฮโดรไลท์, กรด Hyaluronic, เปปไทด์ 15 ชนิด, กรดอะมิโน 18 ชนิด, วิตามินรวม 10 ชนิด, Growth Factor และกลูต้าไธโอน |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวช่วยให้ผิวหน้าสดใส ฉ่ำวาวช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยช่วยกระชับรูขุมขนช่วยลดการอักเสบของผิวช่วยลดสิวและการระคายเคืองปรับผิวให้ดูกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำช่วยเพิ่มความตึงกระชับให้แก่ผิว |
เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ฉีดบ่อยแค่ไหน? เจ็บไหม? ผลข้างเคียงหลังฉีด
เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?
เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ฉีดหน้าใสบ่อยแค่ไหน? โดยปกติแพทย์จะแนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะลดเหลือ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อคงสภาพ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการของแต่ละคนด้วย และเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และคงสภาพผิวที่ฉ่ำวาวจากการฉีดหน้าใสควรทำอย่างต่อเนื่องในทุกเดือน
ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บไหม?
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดวิตามินหรือสารสำคัญลงไปยังผิวชั้นกลาง ซึ่งใช้เวลาไม่นานและปริมาณตัวยาไม่มาก จึงเป็นการลงเข็มโดยไม่ฉีดยาหรือแปะยาชาก่อน ทำให้ระหว่างการฉีดอาจรู้สึกเจ็บ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ โดยแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีความเจ็บที่ไม่เท่ากันหากต้องการทราบว่า ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? หรือตัวไหนเจ็บแค่ไหน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ 44botox
ผลข้างเคียงการฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใสนั้นมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ 100% อาจมีผลข้างเคียงอย่างมีรอยเข็มให้เห็นบ้างในบางเคส แต่ก็สามารถหายได้เองภายใน 3 วัน แต่ทั้งนี้ต้องเลือกฉีดตัวยาที่ผ่าน อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้วและเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานด้วย เพราะผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ, การแพ้ยาชา, การแพ้ตัวยาเมโส, ผื่นแดงบริเวณรอยเข็มหรือรอยช้ำ มีสาเหตุมาจากการเลือกตัวยาไม่ได้มาตรฐาน, เทคนิคที่ไม่เหมาะสมหรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เป็นต้น
เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน? กี่วันเห็นผล? และวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด
เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน? หลังฉีดเมโสหน้าใส จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงด้านผิวขาวกระจ่างใส ริ้วรอยดูจางลงหรือใบหน้ามีความสดใสมากขึ้นได้ภายใน 3 วัน ก่อนจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนอีกครั้งภายใน 7-14 วันและผลลัพธ์จะคงสภาพอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง แต่หากถามว่า ฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? โดยเฉลี่ยสำหรับบุคคลทั่วใบสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้หลังฉีด 1-2 ครั้ง
หลังฉีดหน้าใส ดูแลยังไง? เพื่อให้ผลลัพธ์เมโสหน้าใสอยู่ได้นาน
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็มอย่างน้อย 12-24 ชั่วโมง
- งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกแดดแรงๆ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง
- งดนวดหน้าหลังฉีด เพื่อป้องกันตัวยากระจายตัว
- งดล้างหน้าหลังฉีด 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวดูดซึมตัวยาได้ดียิ่งขึ้น
- งดใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Whitening
- สามารถประคบเย็นเพื่ออาการบวมช่วย 48 ชั่วโมงหลังฉีดได้หรือตามคำแนะนำของแพทย์
สรุป
คงได้คำตอบอย่างชัดเจนกันไปแล้วว่าฉีดเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน? เจ็บไหม? และควรเลือก ฉีดหน้าใส ตัวไหนดี? ก็น่าจะทำให้หลายคนได้คำตอบมากยิ่งขึ้นว่า ควรทำหัตถการ Meso หน้าใสเพื่อแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำ ริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบนใบหน้าหรือไม่? หากต้องการปรับเพิ่มความสว่างกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยและเผยให้ผิวแลดูกระชับเต่งตึง เลือกฉีดเมโสหน้าใสด้วยผลิตภัณฑ์จาก 44botox รับประกันของแท้ส่งตรงจากต่างประเทศ เพื่อคงความอ่อนเยาว์ ได้ใช้ชีวิตใหม่ ไปพร้อมกับผิวหน้าที่ดูดีน่าภาคภูมิใจ อยากรับความสวยที่ถูกใจมากกว่าแต่ก่อน ขอคำปรึกษาเพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้ผ่าน Line ได้เลย พร้อมจัดส่งให้ทั่วประเทศไทย รอรับสินค้าที่หน้าบ้านเพื่อใช้บริการกับคลินิกใกล้เคียงหรือสอบถามรายละเอียดจองคิวรับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกในเครือ 44botox ก็ได้เช่นกัน พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกทั้งแบบอย.ไทยและอย.นอก หากลองมาแล้วหลายวิธีที่ไม่ได้ผล ในเรื่องความสวยความงาม ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจหรือยัง? แล้วเลือกปรึกษาวิธีที่ได้ผลกับ 44botox ทันที ไม่ต้องรอ!