CYTOCARE 532, FILORGA NCTF 135 HA และ TOP FACE ถูกจัดให้เป็นเมโสใต้ตาที่ได้รับความไว้วางใจ 3 อันดับแรกในวงการหัตถการ มีความโดดเด่นในการแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำใต้ดวงตาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูง แต่เนื่องด้วยมีความสามารถด้านการแก้ไขปัญหาผิวใกล้เคียงกัน จึงเป็นเรื่องยากต่อการตัดสินใจว่า ควรเลือกใช้ Meso ใต้ตาแบบไหนดี? ระหว่าง CYTOCARE 532 vs filorga nctf 135 ha vs TOP FACE ดังนั้น 44botox จึงขอมาช่วยไขข้อข้องใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รูปแบบเป็นอย่างไร? มีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน? เพื่อให้คุณสามารถเลือก Meso ใต้ตาที่แก้ไขความหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตาได้อย่างเหมาะสม พร้อมคืนความสดใสอิ่มฟูให้กับดวงตา จะได้เตรียมตัวบอกลาตาแพนด้าและต้อนรับความสดใสได้ภายในชั่วข้ามคืน ตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมๆ กัน
ทำความรู้จักกับ เมโสใต้ตา คืออะไร?
เมโสใต้ตา เป็นการฉีดสารสำคัญที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวหนังโดยตรง (ฉีดเข้าชั้นผิวหนังชั้นกลางบริเวณใบหน้า) เพื่อส่งตรงการบำรุงขั้นสูงสุดไปยังต้นตอของปัญหา ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ผิวแห้ง ขอบตาดำให้กลับมาสดใส ชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้นอีกครั้ง
โดยแต่ละผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Meso ใต้ตา ได้แก่ filorga nctf 135ha ใต้ตาหรือ fillmed nctf 135 ha, cytocare ใต้ตาและ top face มีคุณสมบัติสามารถแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตาได้อย่างตรงจุด ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่แตกต่างกันไป จึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้อย่างตรงจุดประสงค์มากขึ้น
ก่อนใช้เมโสใต้ตา ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การทำเมโสหน้าใสหรือ Meso ใต้ตาโดยทั่วไปแล้ว ไม่มีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษหรือต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเหมือนกับการทำหัตถการแบบอื่นๆ เลย เพียงแค่ก่อนทำการฉีดเมโสใต้ตา จำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินสภาพผิวหน้าเสียก่อน โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกสูตรเมโสที่เหมาะกับสภาพผิวและตรงความต้องการของคุณให้ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ขั้นตอนการเตรียมตัวจะไม่ซับซ้อน แต่ในส่วนของการดูแลตัวเองหลังจากทำ Meso ใต้ตานั้น ยังถือว่ามีความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด คุณจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังทำเมโสใต้ตา
1. ควรงดการสัมผัสใบหน้าและล้างหน้าหลังจากฉีดวิตามินใต้ตาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแผลรูเข็มที่อาจยังปิดไม่สนิท
2. ควรงดการสครับผิว หลังฉีดวิตามินใต้ตาเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการระคายเคือง
3. หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่ทำหัตถการ เป็นเวลา 1-3 วัน เพื่อป้องกันการกระจายตัวของตัวยา
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดเป็นเวลานาน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรทาครีมกันแดด SPF ไม่ต่ำกว่า 50+ ก่อนเสมอ
5. ควรหมั่นทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิว
6. ควรงดผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิว เช่น BHA และ AHA หลังจากฉีดวิตามินใต้ตา เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
**หมายเหตุ** หลังเข้ารับการฉีดเมโสใต้ตาครั้งแรก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่ยแนะนำให้ฉีดวิตามินใต้ตาซ้ำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเพิ่มเติม
เมโสใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง ควรเลือกใช้แบบไหน?
การฉีดเมโสใต้ตาเหมาะสำหรับคนที่พบว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาขอบตาดำหรือใต้ตาคล้ำได้ด้วยการใช้เพียงแค่ครีมบำรุงทาภายนอก หากต้องการฟื้นฟูหรือซ่อมแซมผิวบริเวณใต้ดวงตาอย่างล้ำลึกแบบเร่งด่วน อันมีสาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น, กรรมพันธุ์, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอและมลภาวะ สามารถให้เมโสเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
ส่วนคำถามที่ว่าควรเลือกใช้ Meso ใต้ตาแบบไหน?ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน เพราะสภาพผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันและอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้การตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแพทย์แตกต่างกันไปด้วย เช่น โรคประจำตัวหรือยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ผู้ที่รับหัตถการได้รับผลลัพธ์ที่มีความชัดเจนและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เทียบ เมโสใต้ตา เลือกฉีดตัวไหน ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร?
1. เมโสใต้ตา CYTOCARE 532
Cytocare ใต้ตา คือ ตัวยาที่อุดมไปด้วยส่วนผสมของกรด Hyaluronic โมเลกุลเดี่ยวและ Rejuvenating Complex CT50 รวมถึงสารบำรุงต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรดอะมิโนเปปไทม์, Co G19, สารต้านอนุมูลอิสระ, กรดนิวคลีอิกหรืออาหารผิวอีกกว่า 53 ชนิดที่สกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก นิยมนำมาใช้ในการฉีดใต้ตาเพื่อฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ, เพิ่มความกระจ่างใส, ลดเลือนริ้วรอย, ทำให้ใต้ตาตื้นขึ้นและเติมน้ำให้แก่ผิวเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีด้วย
2. เมโสใต้ตา FiLORGA NCTF 135 HA
Fillmed NCTF 135ha คือ ตัวยาที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่างกรด Hyaluronic โมเลกุลสูง 1.4 ล้านดาลตันและสารบำรุงต่างๆ ได้แก่ วิตามินและแร่ธาตุ กรดอะมิโนโคเอนไซม์และกลูต้าไธโอน ส่วนใหญ่นิยมนำ Filorga ใต้ตามาฉีดบริเวณใบหน้าเพื่อเพิ่มความกระจ่างใส แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ, ขอบตาดำ, ผิวแห้งและผิวโทรม เพื่อให้ผิวกลับมาแลดูชุ่มชื้น ดูอิ่มฟูขึ้น
3. เมโสใต้ตา TOP FACE
TOP FACE คือ ตัวยาที่มีส่วนผสมสำคัญมากถึง 3 ประเภท ได้แก่ Korea Ginseng, กรด Hyaluronic และ Growth Factor ที่มีคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำครบ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วตัวยาจะเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวลึกถึงระดับ DNA และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และซ่อมแซมผิวในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ผิวมีความตึงกระชับ, กระจ่างใสขึ้นและริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด
สรุป Cytocare กับ filorga ต่างกันยังไง? เหมือนกับ TOP FACE ไหม?
ความแตกต่าง | cytocare | filorga nctf 135 ha | top face |
คุณสมบัติ : | CYTOCARE 532 คือ ช่วยแก้ไขใต้ตาคล้ำ ปรับผิวรอบดวงตาให้มีความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นได้เป็นอย่างดี | nctf 135ha คือ ช่วยปรับให้ผิวมีความเรียบเนียน, เพิ่มความชุ่มชื้น, ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใส | TOP FACE คือ ช่วยขจัดปัญหาใต้ตาคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาริ้วรอย, ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส, เปล่งปลั่ง, เสริมความเรียบเนียนและเพิ่มความตึงกระชับให้แก่ผิว |
ส่วนผสมหลัก : | Hyaluronic Acid และ Rejuvenating Complex CT50 | วิตามิน 14 ชนิด, Hyaluronic Acid, กรดอะมิโน 24 ชนิดและสาร Anti-oxidant | KoreaGinseng, Hyaluronic Acid และ Growth Factor |
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : | อยู่ได้นาน 1-2 เดือน | อยู่ได้นาน 3-4 สัปดาห์ | อยู่ได้นานสุด 3 เดือน |
จำนวนการฉีดที่เห็นผลชัดเจน : | ฉีด 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 3-4 สัปดาห์ | ฉีดต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไป ต่อเนื่อง 1 เดือน | ฉีด 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ |
เมโสใต้ตา อันตรายไหม มีข้อควรระวังอะไรที่ควรรู้?
เมโสใต้ตา อันตรายไหม? การฉีดเมโสใต้ตาทั้ง Filorga ใต้ตา, cytocare ใต้ตาและ Top face ใต้ตาไม่อันตราย เนื่องจากตัวยาแต่ละตัวมาพร้อมส่วนประกอบหรือสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติและผ่านมาตรฐานการรับรองจาก อย.ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อควรระวัง
ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์เมโสใต้ตาให้รอบคอบก่อนใช้งาน เพราะหากเลือกเมโสปลอมหรือไม่ผ่านมาตรฐาน อาจส่งผลให้เกิดผลเสียในระยะยาว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปลอมส่วนใหญ่นิยมใช้สเตียรอยด์หรือฮอร์โมนเป็นส่วนผสม เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วถึงแม้จะสามารถให้ผลลัพธ์ได้ตามต้องการ แต่เมื่อสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้ชั้นผิวบางลง มีความไวต่อแดดและการเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัย จึงจำเป็นต้องดูว่า filorga nctf 135ha ใต้ตาหรือ fillmed nctf 135 ha, cytocare ใต้ตาและ top face เป็นของแท้ 100% และขั้นตอนการฉีดอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือคลินิกที่สามารถไว้วางใจได้ นอกจากนี้ ควรแจ้งประวัติการใช้ยา, อาการแพ้, โรคประจำตัวหรือยารักษาโรคที่ต้องทานต่อเนื่อง ให้แพทย์ทราบก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นหลังเข้ารับการฉีดด้วย
เมโสใต้ตา ต้องฉีดกี่ครั้ง เห็นผลภายในกี่วัน อยู่ได้นานกี่วัน?
การฉีดเมโสใต้ตาสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 3 วันและจะสามารถเห็นผลได้อย่างเต็มที่เมื่อฉีดต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 สัปดาห์-3 เดือน
สรุป
จากรายละเอียดข้างต้นจะเห็นได้ว่าเมโสใต้ตานั้นมีความโดดเด่นในการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไหนก็ตาม จำเป็นต้องผ่านการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน เพื่อให้สามารถเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคนได้อย่างตรงจุด เมื่อทราบแล้วว่าตัวเองเหมาะกับผลิตภัณฑ์ไหน? สามารถสั่งซื้อ Meso ใต้ตาผลิตภัณฑ์ของแท้จาก 44botox ที่ส่งตรงจากต่างประเทศ ผ่านแชต Line ได้เลย นอกจากนี้สามารถปรึกษาและจองคิวเพื่อรับการบริการกับคลินิกในเครือ 44botox ได้อีกด้วย ซึ่งให้บริการด้วยมาตรฐานชั้นนำ มีเครื่องมือครบครัน ปลอดภัยสูง บุคลากรทางการแพทย์ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง พร้อมประเมินสภาพผิวและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ เพื่อให้ผลลัพธ์ในการฉีดที่ดี เห็นผลเรื่องใต้ตาคล้ำ ตาแพนด้าได้แน่นอน!